วันอังคารที่ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

รวบรวมวิธีเลือกซื้อGlutathioneต่างๆ ว่าเราควรดูจากตรงไหน

เนื่องจากในท้องตลาดตอนนี้ค่อนข้างมีกลูต้าไธโอนอยู่หลายยี่ห้อมากมาย  ทำให้บางคนตัดสินใจไม่ถูกว่า จะเลือกทานตัวไหนดี  เราจึงมีคำแนะนำเพิ่มเติมในการเลือกกูลต้าไธโอน เพื่อให้คุณตัดสินใจได้ถูกต้องตามความเหมาะสมมากขึ้น   เราไม่ได้แอบอ้างโฆษณาเพื่อขายสินค้า เพราะสินค้าทุกตัวที่พูดถึงในส่วนนี้ ถ้าท่านใดสนใจ จะแนะนำตัวที่ดีที่สุดให้กับคุณ   จะได้ไม่ต้องเสียเวลาไปลองผิด ลองถูก เพราะอ่านบทความเหล่านี้ที่แนะนำมาจากข้อมูลเภสัช และกระทู้ต่างๆ ที่แบ่งปันความรู้และประสบการณ์ตรงมาให้ได้ฟังกัน ซึ่งผมได้คัดกรองมาให้อ่านกันน่ะคับ

อันดับ 1 ที่แนะนำ คือ Lypo-Spheric Glutathione 450 mg (กลูต้าเจล)


ตัวนี้เด็ดอยากแนะนำเป็นตัวแรกเพราะว่า ตัวนี้เป็นเพียงแค่ตัวเดียว ณ ตอนนี้ที่มีการทำอยู่ในรูปแบบพิเศษที่เรียกว่า Lyposome ที่สามารถทำให้มีการดูดซึมเกือบ 100% อีกทั้งกลูต้าไธโอนของ Lypo-SphericTM GSH กล่องชมพูๆนี้    ยังอยู่ในรูป Reduce Form (Active Form)
ซึ่งเป็นรูปแบบของกลูต้าไธโอนที่พร้อมจะออกฤทธิ์ทันที ส่วนยี่ห้ออื่นๆที่โฆษณาว่าดูดซึมได้ 100% หรือทำในรูปแบบ Lyposome  เช่น กลูต้า h2o เม็ดเหลือง กลูต้าh2o ต่างๆ นั้นไม่เป็นความจริง เนื่องจากไม่ได้ทำเป็น Lyposome และไม่ได้อยู่ในรูปแบบ Reduce Form ด้วยจากการที่กลูต้าไธโอนไม่ค่อยคงตัวในกระเพาะอาหาร เนื่องจากสามารถถูกทำลายด้วยกรดหรือเอนไซม์
การทำในรูปแบบพิเศษที่เรียกว่า Lyposomal Nano-Spheres® จะเป็นการนำสารที่มีคุณสมบัติพิเศษที่ทนต่อกรดและเอนไซม์มาคลุมกลูต้าไธโอน (หรือรูปแบบที่เรียกว่า Liposome) เพื่อป้องกันการทำลายของกลูต้าไธโอนในกระเพาะอาหาร ทำให้กลูต้าไธโอนที่ทานเข้าไปสามารถดูดซึมได้เกือบ 100%
กลูต้าไธโอนเจล รูปแบบ Lyposomal Nano-Spheres®, ที่ผลิตด้วยนาโนเทคโนโลยี จากอเมริกา จึงมีการดูดซึมได้รวดเร็วและดูดซึมได้เกือบ 100% จึงเป็นกลูต้าไธโอนแบบทานที่เห็นผลใกล้เคียงกับกลูต้าไธโอนแบบฉีดมากที่สุด ณ ตอนนี้ อีกทั้งกลูต้าไธโอนของ Lypo-SphericTM GSH นี้
ยังอยู่ในรูป Reduce Form (Active Form) ซึ่งเป็นรูปแบบของกลูต้าไธโอนที่พร้อมจะออกฤทธิ์ทันที โดยเมื่อเทียบกับกลูต้าไธโอนที่อยู่ในรูปแบบผงบรรจุแคปซูลตามยี่ห้อต่างๆ ทั่วไป ร่างกายจะสามารถดูดซึมกลูต้าไธโอนเข้าไปใช้งานได้เพียงแค่บางส่วนเท่านั้น (ประมาน 10%) และรูปแบบของกลูต้าไธโอนก็ไม่ได้เป็นแบบ   Reduce Form กลูต้าไธโอนของยี่ห้อพวกนี้เมื่อเข้าไปสู่ร่างกายจะต้องมีการเปลี่ยนรูปอีก ถึงจะออกฤทธิ์ได้ ดังนั้นก็จะมีบางส่วนจาก 10% อีกที่ไม่สามารถเปลี่ยนไปอยู่ในรูปที่ออกฤทธิ์ได้ดี
สำหรับผู้ที่ต้องการเห็นผลเร็ว แต่กลัวการฉีดกลูต้าไธโอน ขอแนะนำกลูต้าไธโอนรูปแบบ Lyposomal Nano-Spheres® นาโนเทคโลยี เทคโนโลยีล่าสุดจากอเมริกานะครับ

ข้อดี : ดูดซึมเกือบ 100%, เป็นของ USA 100%, มีสถานที่ผลิตจริงและส่วนประกอบครบถ้วนชัดเจน และสินค้าได้มาตรฐานจาก FDA ของ USA, กลูต้าไธโอนอยู่ในรูป Reduce Form (Active Form) ซึ่งพร้อมที่จะออกฤทธิ์, ง่ายต่อการทานเนื่องจากไม่ต้องทานทุกวัน

ข้อเสีย : ราคาของยี่ห้อนี้ถือว่าค่อนข้างแพง, มีกลิ่นฉุนอาจยากต่อการรับประทาน เนื่องจากกลูต้าไธโอนแท้เกรดคุณภาพ จะมีกลิ่นฉุนจาก Sulfur ที่เป็นส่วนประกอบของกลูต้าไธโอน
คำแนะนำ : ถ้ามีงบ แนะนำให้เลือกทานตัวนี้ โดยแนะนำให้ทานสัปดาห์ละ 3 ซอง ร่วมกับทานวิตามินซีทุกวัน หรือในบางคนถ้าต้องการผลที่ดีกว่าอาจทานถี่ขึ้นได้โดยทานวันเว้นวัน หรือทานทุกวันในช่วงแรก
แล้วค่อยลดเหลือทานสัปดาห์ละ 3 ซอง แต่ว่าถ้าไม่มีงบก็ทานเป็นตัวอื่นนะครับ, ในกรณีที่ทานลำบากเนื่องจากกลิ่นฉุน แนะนำให้ผสมกับน้ำผลไม้หรือเครื่องดื่มตามที่ชอบแล้วค่อยรับประทาน


อันดับ 2 ivory Caps



กลูต้าไธโอนชนิดเข้มข้น เห็นผลทันใจ ขาวสว่างใสรวดเร็วช่วยลดความหมองคล้ำและจุดด่างดำอีกทั้งยังช่วยลดและป้องกันริ้วรอย และสามารถใช้ในผู้ป่วยโรคตับหรือมีปัญหาโรคตับ โดยตัวนี้ถือเป็นกลูต้าไธโอนแบบเม็ดที่ดีที่สุด ณ ตอนนี้ มีส่วนประกอบตามที่ ระบุจริง ผ่าน อย. จาก USA และมีสถานที่ผลิตจริงสามารถตรวจสอบได้ สินค้าคุณภาพพรีเมี่ยมนำเข้าจาก USA เหตุใดivory caps  จึงเป็นกลูต้าไธโอนแบบเม็ดที่ดีที่สุดและเป็น Gluta h2Oที่น่าเชื่อถือที่สุด
ส่วนประกอบสำคัญ : Proprietary Skin Essentials Blend: 1500 mg Glutathione (Reduce form), Alpha Lipoic Acid, Milk Thistle (Standardized to min, 80% Silymarin)
ข้อสังเกตของยี่ห้อนี้นะ
ลักษณะ Ivory Caps ของจริง
1. ขวดจะมีลักษณะใหญ่กว่า และฝากขวดเป็นฝาแบบเรียบไม่มีมีรอยหยัก
2. พลาสติกจะซีลแค่ที่ฝาขวด มีตัวหนังสือสีดำ บางร้านอาจโชว์รูปแต่มีตัวหนังสือสีแดง ไม่ต้องกังวล เพราะรูปนั้นเป็นรูปที่ทำขึ้นด้วย Com ที่โชว์อยู๋ในเวป Ivory Caps แต่ผลิตภัณฑ์จริงจะเป็นตัวหนังสือสีดำ
3. เม็ดจะเป็นแบบแคปซูลแข็ง

ลักษณะ Ivory Caps ของปลอม

1. ขวดจะมีลักษณะเล็กกว่า และฝากขวดเป็นฝาแบบมีรอยหยัก
2. พลาสติกจะซีลทั้งขวด
3. เม็ดจะเป็นแบบ Softgel

1. Lypo Spheric GSH หรือ กลูต้าเจล เป็นกลูต้าไธโอนแบบทานดีที่สุด ผลใกล้เคียงแบบฉีดมากที่สุด
2. Ivory Caps เป็นกลูต้าไธโอนแบบแคปซูลดีที่สุด
3. Gluta h2o แบบต่างๆ
4. กลูต้าไธโอนที่มี อย.จาก USA เช่น Now Foods, NAC Pharma Grade
5. *** สำหรับคนที่มีงบไม่มาก แต่ต้องการสินค้าคุณภาพ แนะนำ NAC Set ***
6. กลูต้าไธโอนที่มี อย. จากไทย เช่น Gluta complex, Profimin Vite Nice และอื่นๆ
7. กลูต้าไธโอนพวกกระปุกขาวที่ไม่มี อย.








อันดับ 3คือ Gluta H2O หรือ บางคนอาจเรียกว่า Gluta H2Q10, Gluta Double White หรืออื่นๆ


เป็นกลูต้าไธโอนที่อยู่ในรูปแบบของเหลว หรือที่เรียกว่า H2O ตอนนี้ H2O ที่มีอยู่ในท้องตลาดจะมีอยู่หลายตัว เช่น Lypo nano H2 (เม็ดเหลืองเล็ก), Double Whitening H2 (เม็ดน้ำตาลเข็มเรียวยาว), Extra Double Whitening H2 (เม็ดน้ำตาลอิฐยาวป้อม), Gluta K2 CO Q10, Q10 H2 Silver, K2 Silver, F1 Honey และอื่นๆ ของตัวนี้ที่ทางร้านขาย จะเป็น H2O แบบเม็ดน้ำตาลเข็มเรียวยาว หรือบางคนอาจเรียกว่า Double Whitening H2 จะมีขนาด 2.5 cm มันวาว มีกลิ่นคาว ซึ่งตัวนี้จะเป็น H2O ที่ดีสุดในบันดาล H2O ทุกตัว ด้วยส่วนประกอบและผลลัพธ์ของลูกค้าที่ได้ผลมากกว่า H2O ตัวอื่นๆ   จากการที่อยู่ในรูปแบบของเหลว ทำให้มีการดูดซึมได้มากกว่าและเร็วกว่า กลูต้าไธโอนยี่ห้อทั่วไปที่เป็นผงบรรจุแคปซูล เช่น L-glutathione, Super White, Profimin, Gluta Complex และอื่นๆ เทียบแบบเม็ดต่อเม็ดกับกลูต้าไธโอนพวกนี้จะดีกว่า แต่ว่าราคาก็สูงกว่าเช่นกันนะครับ
ข้อดี : อยู่ในรูปแบบของเหลว จะดูดซึมได้ดีกว่าแบบยี่ห้อทั่วไปที่เป็นผงบรรจุแคปซูล, ง่ายต่อการทานเนื่องจากไม่ต้องทานทุกวัน
ข้อเสีย : ราคาตกต่อเม็ดถือว่าสูงกว่ากลูต้าไธโอนทั่วไป, สถานที่ผลิตและส่วนประกอบไม่ชัดเจน แต่ว่าไม่ใช่ยาห้ามเลือดแน่นอน 100% นะครับ, การทานเพียงแค่สัปดาห์ละ 1-2 เม็ด ตามที่มีการโฆษณากัน อาจไม่ค่อยเห็นผลในบางคน

คำแนะนำ : ถ้ามีงบอยู่ระดับนึง และเคยทานกลูต้าไธโอนยี่ห้อต่างๆมาแล้วไม่ค่อยได้ผล ลองทานตัวนี้ดูนะครับ แต่ว่าถ้าทานเดี่ยวๆควรทานอย่างน้อยสัปดาห์ละ 3 เม็ด ร่วมกับทานวิตามินซีทุกวัน หรืออาจเลือกทานกลูต้าไธโอนยี่ห้อทั่วไปเป็นตัวหลักทุกวัน
 แล้วทาน Gluta H2O เสริมสัปดาห์ละ 2-3 เม็ด เพื่อให้ได้ผลที่ดีขึ้นนะครับ แต่ว่าถ้างบยังไม่พอก็ทานเป็นตัวอื่นนะครับ



อันดับ 4 คือ Profimin Vite Nice, Gluta Complex, Glow Enhance, Blackmore Radiance Marine Q10, Choccola CC หรือ กลูต้าไธโอนที่มี อย. ยี่ห้อต่างๆ ที่มีปริมาณกลูต้าไธโอนและส่วนผสมอื่นๆที่โอเค

กลูต้าไธโอนยี่ห้อเหล่านี้เทียบกับกลูต้าไธโอนกระปุกทุกยี่ห้อแล้วจะดีกว่า ทั้งในเรื่องของ ปริมาณสาร คุณภาพของสาร และรับประกันความปลอดภัยด้วย อย. ด้วยยี่ห้อเหล่านี้มักผลิตภายใต้ลิขสิทธิ์ของอเมริกา คือ สารนำเข้าจากอเมริกาและพัฒนาสูตรตำรับจากที่อเมริกา แล้วนำเข้ามาบรรจุและผลิตในเมืองไทย เช่น Profimin Vite Nice, Gluta Complex, Glow Enhance ฯลฯ หรือบางตัวก็ผลิตจากที่อเมริกาหรือญี่ปุ่นมาเลย เช่น Choccola CC ฯลฯ
ยี่ห้อเหล่านี้จะผลิตด้วยโรงงานที่มีคุณภาพมาตรฐาน GMP และ ISO ของ กองควบคุมอาหารและยา และสารที่ใช้ในการผลิตจะมีคุณภาพที่ดีกว่ากลูต้าไธโอนกระปุกขาว สารส่วนใหญ่จะมาจากอเมริกาและญี่ปุ่น และด้วยมีการตรวจสอบผลิตภัณฑ์ก่อนออกสู่ท้องตลาด จึงมั่นใจได้ว่าไม่มียาห้ามเลือดผสมอยู่

ข้อดี :
ราคาไม่แพงมากจนเกินไป มีปริมาณสารที่มากกว่ากลูต้าไธโอนกระปุกขาว คุณภาพสารดีกว่า และมี อย. รับประกันคุณภาพและความปลอดภัย, มีสถานที่ผลิตจริงและส่วนประกอบชัดเจน, มั่นใจได้ว่าไม่มียาห้ามเลือดผสม

ข้อเสีย :
ต้องรับประทานทุกวัน
คำแนะนำ : ถ้ามีงบปานกลาง แนะนำให้ทานพวกนี้นะครับ และทานร่วมกับวิตามินซี โดยถ้าต้องการให้เห็นผลเร็วในช่วงแรก ให้ทานกลูต้าไธโอน + วิตามินซี อย่างละ 1 เม็ด วันละ 2 เวลา และถ้าทานแล้วได้ผลที่โอเคตามต้องการ ก็สามารถลดการทานลงเหลือวันละ 1 เวลา
เพื่อให้รักษาระดับของผิวให้คงอยู่นานขึ้น


อันดับ 5 คือ พวกกลูต้าไธโอนกระปุกขาว หรือกลูต้าไธโอนที่มี อย. ปลอม เช่น L-glutathione plus/pure/plus Q10, Super White, กลูต้าอเมริกา, L-glutathione Vite Active ฯลฯ และกลูต้าไธโอนตามเวปต่างๆที่นำมาทำแพ็คเกจของตัวเอง เช่น Transgender, Miss Beauty Perfect, Annelabeaute ฯลฯ



กลูต้าไธโอนกระปุกขาวเหล่านี้จะมีขายกันอยู่มากมายหลายตัว ณ ตอนนี้ ซึ่งมีการโฆษณาต่างๆมากมายว่าสารคุณภาพจากอเมริกา ญี่ปุ่น ฯลฯ    คุณภาพเกรด A, AA, AAA      ทั้งนี้สารเหล่านี้อาจไม่ได้มาจากอเมริกาหรือญี่ปุ่น หรือมีคุณภาพตามที่โฆษณา   เนื่องจากผลิตภัณฑ์เหล่านี้ไม่ได้มีการตรวจสอบจาก อย. ทางผู้ผลิตหรือโรงงานจะใส่สารอะไรเข้าก็ไปก็ได้ และส่วนใหญ่มักไม่ได้ใส่สารจริงตามที่ระบุเอาไว้บนฉลากของกระปุก   แต่เหตุใดถึงได้มีคนทานยี่ห้อเหล่านี้อยู่มาก เนื่องจากราคาของผลิตภัณฑ์ถึงว่าค่อนถูกข้างเมื่อเทียบกับกลูต้าไธโอนยี่ห้อ ต่างๆตามที่กล่าวมาข้างต้น อีกทั้งมีหลายคนที่ทานกันแล้วได้ผล และไม่มีผลข้างเคียงอะไร
ข้อดี : ราคาถูก
ข้อเสีย : สถานที่ผลิตและส่วนประกอบไม่ชัดเจน, ไม่ได้มีการตรวจสอบทั้งเรื่องของคุณภาพและมาตรฐาน, บางยี่ห้ออาจมีส่วนผสมของยาห้ามเลือด, คุณภาพสารไม่ได้เป็นเกรดอเมริกาหรือญี่ปุ่นตามที่โฆษณากัน, ตอนนี้มีของปลอมแพร่ระบาดค่อนข้างมาก, ต้องรับประทานทุกวัน
คำแนะนำ : มีหลายคนที่ทานกลูต้าไธโอนเหล่านี้ได้ผลและไม่มีผลข้างเคียงหรืออันตราย ซึ่งถ้าคุณเป็นคนที่มีงบน้อยก็แนะนำให้ทานกลูต้าไธโอนพวกนี้ และทานคู่กับวิตามินซีทุกวัน โดยถ้าต้องการให้เห็นผลเร็วในช่วงแรก ให้ทานกลูต้าไธโอน + วิตามินซี อย่างละ 1 เม็ด วันละ 2 เวลา และถ้าทานแล้วได้ผลที่โอเคตามต้องการ ก็สามารถลดการทานลงเหลือวันละ 1 เวลา เพื่อให้รักษาระดับของผิวให้คงอยู่นานขึ้น ในคนที่ยังไม่เคยทานมาก่อนอาจเลือกลองทานยี่ห้อเหล่านี้ แต่ถ้าต้องการตัวที่มีคุณภาพและความปลอดภัยมากกว่าแนะนำให้เลือกกลูต้าไธโอน ยี่ห้อต่างๆตามที่กล่าวมาข้างต้น


กลูต้าไธโอนที่ทางเราไม่ค่อยแนะนำ เช่น White Complex 750 mg, Gluta H2O เม็ดเหลือง
สำหรับ White Complex 750 mg ค่อนข้างจะโฆษณาคุณภาพและสรรพคุณมากมาย ซึ่งพวกนี้ไม่ได้ต่างจากกลูต้าไธโอนกระปุกขาว เนื่องจากไม่ได้มีการตรวจสอบจาก อย. ซึ่งทางผู้ผลิตหรือโรงงานจะใส่สารอะไรเข้าก็ไปก็ได้ แล้วก็นำมาโฆษณาว่ามีกลูต้าไธโอนมากถึง 750 mg เป็นผลิตภัณฑ์คุณภาพสูง เห็นผลใน 7 วัน และได้รับการมาตรฐาน GMP จาอเมริกา แต่จริงๆแล้วไม่ได้ใส่สารตามที่กำหนด เนื่องจากแคปซูลจริงๆบรรจุได้เพียงแค่ 500-700 mg แต่ส่วนผสมบนฉลากรวมกันได้ประมาน 1500 mg อีกทั้งคุณภาพสารและมาตรฐานไม่ได้เป็นเกรดอเมริกาตามที่โฆษณา
สำหรับ Gluta H2O เม็ดเหลือง หรือที่เรียกกันว่า Lypo Nano H2? ตอนนี้เริ่มมาแรง เพราะว่ามีการโฆษณาสรรพคุณเวอร์มากมาย ว่าขาวเร็วกว่าตัวเดิมถึง 3 เท่า, มีลักษณะเป็น Lyposomal Nanosome และมีกลูต้าไธโอน 1000 mg + Vitamin C 1000 mg และอื่นๆ (บางร้านอาจโฆษณาว่ามีกลูต้าไธโอน 850 mg) ซึ่งทางร้านบอกได้เลยว่าส่วนผสมไม่ได้มีตามนี้จริงๆ และไม่ได้มีการทำในรูปแบบ Lyposomal Nanosome ส่วนประกอบที่มีอยู่ในเม็ดแคปซูลเล็กสีเหลืองนี้ไม่น่าจะเกิน 250 mg ซึ่งจะเป็นอะไรแน่นอนนั้นทางร้านยังไม่ทราบแน่ชัด
ข้อดี : ไม่แตกต่างจากยี่ห้ออื่นสักเท่าไหร่
ข้อเสีย : ราคาแพง, สถานที่ผลิตและส่วนประกอบยังไม่ชัดเจน, ไม่ได้มีการตรวจสอบทั้งเรื่องของคุณภาพและมาตรฐาน, คุณภาพสารและมาตรฐานไม่ได้เป็นเกรดอเมริกาตามที่โฆษณา
คำแนะนำ : สำหรับบางคนที่อยากลอง อาจเลือกทานดูได้นะครับ เพราะว่าก็มีคนที่ทานแล้วเห็นผลหลายคน โดยแนะนำให้ทานร่วมกับวิตามินซีทุกวัน
ขอบคุณเว็บไซต์ต่างๆ ที่ให้ข้อมูลประกอบนะครับ



Unit…1 ทานกลูต้าไธโอนอย่างไรให้ได้ผล?
หลังจากที่ก่อนหน้านี้มีคนถามกันเข้ามาเยอะมากว่า กลูต้ามีตั้งเยอะจะกินตัวไหนดี กินแล้วจะขาวจริงมั๊ย ตัวไหนขาวไวที่สุด หยุดกินจะกลับมาดำหรือเปล่า ฯลฯ และคำถามที่ถามกันเยอะมากๆก็คือ ต๋อมทานตัวไหนถึงขาว
เอาไงดีล่ะ คือต๋อมก็ไม่ได้เป็นผู้เชี่ยวชาญอะไรขนาดนั้น ก็ค่อยๆศึกษาและทดลองไปเรื่อยๆ แต่จะพยายามตอบไปเรื่อยๆก่อนแล้วกันเนอะ ถูกผิดยังไงก็ไม่รู้ แต่อธิบายตามวิธีของต๋อมละกัน^^

1. จะกินกลูต้าตัวไหนดี
- จริงๆกลูต้าไธโอนทุกตัวมีประสิทธิภาพในการปรับเม็ดสีผิวของเราที่คล้ำให้ขาวขึ้นได้จริง แต่ตอนนี้มีกลูต้าแบบต่างๆทยอยกันออกมาเยอะมากกกก จนทำเอาเราเลือกไม่ถูก
ไอ้จะกินมันทุกตัว ตับคงพังแน่ๆ ขอแนะนำว่า ให้อ่านส่วนผสมต่างๆในกลูต้า1เม็ด ว่าประกอบไปด้วยอะไร ช่วยเรื่องอะไรบ้าง เลือกเอาที่เราคิดว่าเหมาะ และตรงกับปัญหาผิวที่เราเป็นอยู่ให้มากที่สุด
พอเลือกได้แล้วอาจจะมีอยู่ในใจหลายตัวที่เราอยากกิน ทีนี้ก็มาวัดกันที่เรื่องของความเข้มข้นของกลูต้า จริงๆแล้วกลูต้าที่เข้มข้นน้อยๆไม่ใช่ว่าจะทำให้เราขาวไม่ได้นะครับ ถ้าเราทานแล้วถูกกับกลูต้านั้นๆ ก็ขาวขึ้นได้จริง เผลอๆเห็นผลดีกว่ากลูต้าที่เข้มข้นมากๆด้วยซ้ำ

2. กินกลูต้าแล้วจะขาวจริงมั๊ย
- ขอยืนยันเลยว่าขาวขึ้นได้จริงๆ แต่ต้องทานของแท้เท่านั้น และก็ต้องทานตัวที่เข้ากับเราที่สุด อย่างบางคนเพิ่งเคยลองทานแค่ตัวเดียว กินไป1อาทิตย์ก็บ่นแล้วว่าไม่เห็นขาวเลยนู่นนี่นั่น จะบอกว่ากลูต้าก็ไม่ใช่ยาวิเศษอะไร ต้องใจเย็นๆและทานให้ถูกวิธี
อย่างคนที่ไม่เคยทานเลย ครั้งแรกอาจจะลองทานดูก่อน แนะนำว่าให้ทานอย่างต่ำประมาณ2-4สัปดาห์ต่อเนื่องนะ ถ้าเราทานแล้วยังไม่มีเอฟเฟคว่าผิวขาวขึ้นหรือใสขึ้นเลยให้เปลี่ยนตัว เพราะเราอาจจะทานตัวนี้ไม่ได้ผล ย้ำนะครับให้ทาน2-4สัปดาห์
 อย่าเพิ่งคิดว่ากินวันนี้แล้วพรุ่งนี้ต้องขาว ไม่งั๊นเขาคงไม่ฉีดกลูต้าเข้าเส้นเลือดกันหรอกจ้า และที่สำคัญกลูต้าควรทานกับวิตามินซีถ้าจะให้ดีก็สัก1000มิลลิกรัม เพื่อช่วยดูดซึมกลูต้าจะได้เห็นผลและมีประสิทธิภาพมากขึ้นอ่อ!อีกอย่าง ลองนึกกันตามหลักความเป็นจริง
นะครับว่า ถ้ากลูต้าราคาถูกมากๆ ถูกเกินไปเนี่ย บางทีเราก็ไม่รู้ว่าของแท้แน่นอนมั๊ย ให้เลือกซื้อจากร้านที่เราไว้ใจได้ แล้วก็ราคาสมเหตุสมผล ยกตัวอย่างบางที่ขายกลูต้าเม็ดนึงถูกมากกกก คือไม่รู้นะว่าเขารับมาจากที่ไหนหรือยังไง แต่ขนาดวิตซียี่ห้อดังๆยังมีคุณสมบัติ
ในการดูดซึมที่ดีกว่าหรือแตกต่างจากวิตซีที่มีราคาถูกทั้งที่มีความเข้มข้นเท่ากัน แถมกระปุกนึงราคาตั้งเท่าไหร่ แล้วกลูต้าที่ช่วยให้เราขาวได้ มันย่อมต้องมีราคามากกว่าวิตซีอยู่แล้ว อันนี้ตามความคิดนะ ไม่รู้คนอื่นจะคิดเหมือนกันมั๊ย^^

3. กลูต้าตัวไหนทำให้ขาวไวที่สุด
- ต้องบอกตามตรงเลยครับว่าไม่ทราบ เพราะขาวเร็วขาวช้าขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล บางคนคล้ำมากแต่จะให้เปลี่ยนมาขาววิ๊งเลยก็ต้องใช้เวลาจ้า และการทานกลูต้าให้ถูกวิธีคือถ้าตอนเช้าหรือกลางวันเราทานยาลดความอ้วนให้ เราทานกลูต้า
้าตอนก่อนนอน เพราะถ้าทานกลางวัน เหมือนสารบางอย่างในยาลดความอ้วนทำให้ประสิทธิภาพของกลูต้าต่ำลง เพราะอย่างที่ทราบคือ ยาลดความอ้วนนั้นช่วยให้ร่างกายไม่ดูดซึมเอาสารอาหารต่างๆเข้าไป แต่ถ้าเราไม่ได้กินยาลดความอ้วน
ตอนเช้าก็สามารถทานกลูต้าได้ หรือบางคนทานกลูต้ามากกว่า1ชนิด ก็ทานได้ทั้งเช้าและก่อนนอน

4. หยุดกินแล้วจะกลับมาดำมั๊ย
- ถ้าเราดูแลผิวดี ไม่ตากแดดจัดๆ ทาครีมกันแดด ก็ไม่กลับมาดำแน่นอนจ้า แต่สีผิวต้องมีดรอปลงไปบ้างเพราะอย่าลืม ว่าเราขาวขึ้นมาได้เพราะสารเคมีในตัวยา ไม่ใช่การบำรุง ดังนั้นถ้าอยากให้ผิวขาวอย่างถาวร ควรทานกลูต้าควบคู่กับการบำรุงผิวอย่างสม่ำเสมอ
อย่าคิดว่ามันยุ่งยากหรือเห็นผลช้านะครับ เพราะถ้าทำจริงๆแป๊บเดียวก็ขาวขึ้นมาได้แล้ว ถ้าจะให้ดี ถ้าเราอยากจะเลิกกินกลูต้า ขอว่าอย่างน้อยอาจจะทานสักอาทิตย์ละ1-2เม็ด ไม่ต้องทานต่อเนื่องเหมือนเมื่อก่อนแล้วจ้า เผื่อให้ผิวยังคงสีผิวขาวอย่างต่อเนื่องไม่ดรอปลงไป

5. ทานตัวไหนถึงขาว


- จะบอกว่าจริงๆไม่จำเป็นต้องทานหลายตัวเลย คือลองไปเรื่อยๆ แต่อย่างแรกคือก็เน้นให้ขาวไวๆ จากนั้นก็เริ่มเปลี่ยนมาทานแบบที่เน้นขาวอมชมพูและผิวนุ่มเนียน เปลี่ยนไปเรื่อยอ่ะ ช่วงระยะแรกก็ทานทุกวันเลยใน1เดือน เดือนต่อไปก็เปลี่ยนตัวแล้วก็ทานวันเว้นวัน จนตอนนี้ก็คือกินบ้างไม่กินบ้าง แต่จะเน้นบำรุงผิวด้วยอ่ะ และที่สำคัญคือ งดแอลกอฮอลล์ทุกชนิด เพราะแอลกอฮอล์จะทำให้กลูต้าไม่มีประสิทธิภาพ ถ้าใครอยากขาวไวๆ ก็ต้องพยายามทำให้ได้นะ ดีต่อสุขภาพด้วยแหละ
ส่วนใคร ที่อยากให้แนะนำกลูต้าให้ทานว่าควรกินตัวไหนดี ก็ลองส่งเมลล์มาได้จ้า อธิบายว่าตัวเองเป็นคนผิวแบบไหน มีปัญหาผิวอะไรบ้าง อยากได้ผลลัพท์อย่างไร เคยทานตัวไหนมาบ้างแล้ว เดี๋ยวจะแนะนำให้นะ ที่ให้ส่งเป็นเมลล์เพราะบางที   ถ้าตอบเลยก็จะเบลอๆเพราะกลูต้ามีหลายตัวมากกกก ถ้าอ่านจากทางอีเมลล์จะได้มีเวลาเปรียบเทียบและจัดชุดกลูต้าให้ทานได้ถูกจ้า

ขอบคุณบทความดีๆจากกระทู้ต่างๆนะคับ


กลูต้ามีหลายตัวมาก เอาลงเว็บไม่หมด ยังไงก็จะพยายามหาข้อมูลมาให้อ่านมากที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ครับ^^
http://whitefaceclub.blogspot.com/

วันศุกร์ที่ 8 เมษายน พ.ศ. 2554

Parabens พาราเบน สารกันบูดที่มีประโยชน์มากมาย

Parabens (i.e., butyl-, methyl-, and propylparabens) 
เป็นสารกันบูดสำหรับเครื่องสำอางค์ ประมาณว่าทำให้เนื้อเครื่องสำอางค์ดูดี รักษาคุณสมบัติทางกายภาพของเครื่องสำอางค์ไว้น่ะครับ
ข้อเสียคือ ถ้ารับในปริมาณมากจะทำหน้าที่คล้าย Estrogen เป็นฮอร์โมนเพศหญิงนะครับ เสี่ยงต่อการผิดปกติทางด้านฮอร์โมนรวมไปถึงมะเร็งเต้านม ..
######################

สารตั้งต้นสำหรับน้ำยาทำความสะอาดต่างๆ ที่เราใช้กันอยู่ทุกวัน

N-70 เป็นสารตั้งต้น (หัวเชื้อ) สำหรับทำน้ำยาทำความสะอาดต่าง ๆ เช่น น้ำยาซักผ้า น้ำยาล้างจาน น้ำยาล้างห้องน้ำ น้ำยาถูพื้นกระเบื้อง น้ำยาสระผม และน้ำยาล้างรถ เป็นต้น เป็นที่ทราบกันดีว่าสินค้าต่าง ๆเหล่านี้ราคามันแพงเพราะค่าการตลาด ค่าโฆษณา แต่จริง ๆแล้วต้นทุนที่ทำเองไม่แพงอย่างที่คิด สามารถทำเองได้ง่ายมาก ซึ่งสูตรการผลิตเหล่านี้หาได้ง่ายบนอินเตอร์เน็ต
N70 คือชื่อทางการค้าของสารทำความสะอาดชนิดนึง โด่งดังจากสินค้าของ Henkel ปัจจุบันเปลี่ยนชื่อบริษัทเป็น Cognis แต่อีกหลายเจ้าก้อผลิตขอรับ Kao, Unilever, etc. หาซื้อได้ง่ายที่ ฮงฮวด หรือระแวกเดียวกันแถวนั้น(เยาวราชเวิ้งนครเกษม ร้านทรงสมัย) เช่น นิวแสงทองอีกเจ้านึง(แต่เจ้านี้ขายค่อนข้างแพง อิๆๆ) และปัจจุบันทั่วทุกมุมเมืองมักมีร้านขายผลิตภัณฑ์วัตถุดิบเอาไปทำสบู่และแชมพูล้วนมีตัวนี้ขายหมดอย่างแน่นอน     N70 คือหัวเชื้อหลักในการทำแชมพู ประสิทธิภาพการชะล้างไขมันระดับกลาง ประจุลบ เอาไปใช้ทำน้ำยาล้างจานก้อได้แต่จานที่ล้างไม่ควรใส่อะไรที่มันมากๆ เพราะบอกแล้วว่าชะล้างไขมันได้ปานกลาง จึงเหมาะเอามาสระผม เพราะถ้าสามารถชะล้างไขมันได้ดีมาก สระหัวจะทำให้เส้นผมและหนังศีรษะแห้งรังแคบานขอรับ เน้นว่าเหมาะใช้ทำแชมพู และอาจเติมในผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดอื่นเพื่อเพิ่มฟอง เพราะฟองเยอะมากๆๆๆๆ      N70 ทำจากกรดไขมันพืชกลุ่ม lauric acid ทำยุ่งยากมาก หากบังเอิญใครมีความสามารถทำได้เองออกมาคำนวณต้นทุนก้อจะพบว่าแพงโคตะระเลยเมื่อเทียบกับซื้อตามร้านที่กล่าวมาแล้ว
 
Copyright 2009 ครีมหน้าขาวใส สบู่สมุนไพร. Powered by Blogger Blogger Templates create by Deluxe Templates. WP by Masterplan